“มีดญี่ปุ่น”ถือเป็นประเภทมีดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ใช่แค่พ่อครัวหรือเชฟทำอาหารญี่ปุ่นเท่านั้น แต่คนทั่วโลกเองหากได้ลองใช้แล้วมักหลงรักด้วยความคมและลักษณะของตัวมีดที่เหมาะกับการหั่น แล่ เนื้อปลาเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามหากคุณเป็นเจ้าของมีดทำครัวญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว อย่าคิดว่ามีดจะต้องคมกริบไปตลอดอายุการใช้งาน เพราะถ้าหากไม่รู้วิธีดูแลมีดแล่ปลาเหล่านี้ให้เหมาะสมก็อาจต้องเสียเงินซื้อใหม่ได้ง่ายๆเลย ลองมาทำความเข้าใจกับเทคนิคดูแลรักษามีดเชฟญี่ปุ่นกันสักนิดว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
มีดญี่ปุ่นมีความหลากหลายต้องเข้าใจวัสดุที่ใช้ทำ
หากใครคุ้นเคยกับการใช้มีดญี่ปุ่นหรือศึกษามาพอสมควรจะเข้าใจว่ามีด้วยกันหลายประเภทรวมถึงความแตกต่างทั้งด้านการใช้งานและวัสดุที่นำมาทำก็ต่างกันออกไปด้วย หากเข้าใจสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ดูแลรักษาง่ายขึ้นกว่าเดิม
1. ผลิตจากเหล็ก High Carbon
วัสดุประเภทแรกที่นิยมใช้ทำมีดทำครัวญี่ปุ่นจะผลิตจากเหล็กกล้าคาร์บอนสูงผสมกับสเตนเลส มีจุดเด่นสำคัญในเรื่องความคม แต่ทั้งนี้หากมีดเล่มไหนมีคาร์บอนผสมอยู่มากเกินไปก็มักมีปัญหาเกิดการกัดกร่อนง่ายมาก แถมยังต้องคอยระวังเรื่องสนิมด้วย แนะนำล้างแล้วเช็ดทำความสะอาดจนแห้งสนิททุกครั้ง
2. ผลิตจาก Stainless Steel
อีกประเภทที่มักถูกใช้สำหรับผลิตมีดเชฟญี่ปุ่นคือสเตนเลสสตีล หรือเหล็กกล้าไร้สนิม มีคุณสมบัติเด่นในด้านความทนทานต่อสนิมจึงได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานจำนวนมาก อย่างไรก็ตามระดับความคมจะลดลงเรื่อย ๆ เมื่อต้องใช้เป็นประจำ การลับมีดแล่ปลาประเภทนี้ให้บ่อยครั้งจึงช่วยได้
แนะนำวิธีดูแลรักษามีดญี่ปุ่นให้ใช้งานได้ยาวนาน
เมื่อเข้าใจประเภทของมีดญี่ปุ่นกันไปแล้ว จะพบว่าวัสดุที่มีความแตกต่างก็ต้องใช้เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการดูแลแบบเฉพาะส่วน อย่างไรก็ตามเพื่อให้ทุกคนเกิดความเข้าใจง่ายขึ้น ไม่ว่ามีดทำครัวญี่ปุ่นประเภทไหนก็สามารถนำเอาเทคนิคที่จะบอกต่อไปนี้ใช้กันได้เลย
1. ใช้งานอย่างถูกต้องทุกครั้ง
สิ่งแรกที่จะทำให้มีดแล่ปลา แล่เนื้อแบบญี่ปุ่นยังคงความคมกริบ ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นคือ ต้องรู้หลักเบื้องต้นที่ถูกต้อง อย่านำมีดประเภทนี้ไปใช้ในการหั่นหรือสับของแข็ง อาหารแช่แข็งทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์แช่แข็ง เนื้อสัตว์ติดกระดูก ผลไม้เนื้อแข็ง และสิ่งของอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหาร เนื่องจากใบมีดมีการออกแบบเฉพาะตัวจึงอาจมีรอยบิ่นจนไม่สามารถใช้แล่ปลา หั่นปลาได้เหมือนเดิม ความคมหายไป
2. ท่าทางในการใช้งาน
การเริ่มต้นดูแลรักษามีดเชฟญี่ปุ่นก็ต้องเริ่มจากท่าทางในการใช้ที่ถูกต้องด้วยเช่นกัน คำแนะนำคือไม่ว่าจะแล่ หั่น ตัดใด ๆ ก็ตามต้องจับมีดให้อยู่ในท่าที่ตนเองถนัด อย่าบิดตัวระหว่างใช้งานเพราะด้วยความคมอาจส่งผลถึงอันตรายกับผู้ใช้งานได้ ยิ่งใครมีความจำเป็นต้องหั่นของแข็งบางชนิด เช่น ผักหัวต่าง ๆ แถมการจับในท่าไม่ถนัดมือยังเสี่ยงต่อมีดมีรอยบิ่นอีกด้วย
3. เลือกใช้เขียงที่เหมาะสม
มีดแล่ปลาของญี่ปุ่นถือว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง ทั้งเรื่องดีไซน์ ความคม และการใช้งาน ดังนั้นต้องเลือกเขียงที่เหมาะสม หากต้องแล่ปลาหรือหั่นวัตถุดิบต่าง ๆ ควรใช้ “เขียงพลาสติก” เพราะเมื่อคมมีดสัมผัสผิวเขียง จะไม่เกิดการเสียดทานหรือแรงต้าน จึงถนอมใบมีดได้เป็นอย่างดี
4. การลับมีดก็มีความสำคัญ
จุดเด่นของมีดญี่ปุ่นคือเรื่องความคม ดังนั้นการลับมีดจึงต้องทำอย่างสม่ำเสมอ แต่อุปกรณ์ที่ใช้ต้องเป็น “หินลับมีดญี่ปุ่น” เท่านั้น เนื่องจากช่วยให้โลหะที่มีคุณภาพสูงเกิดความคมภายในเวลาอันรวดเร็ว
5. ดูแลตามประเภทวัสดุของมีด
อย่างที่อธิบายเอาไว้ว่ามีดทำครัวญี่ปุ่นมักผลิตจากวัสดุ 2 ประเภท ซึ่งความแตกต่างและการดูแลเฉพาะก็ได้อธิบายไว้เรียบร้อย ย้ำอีกครั้งว่าหากใช้มีดทำจากเหล็กกล้าคาร์บอนสูงต้องล้างและเช็ดทำความสะอาดให้แห้ง อย่าเปียกหรือมีความชื้นบนตัวมีดเป็นอันขาด ส่วนการใช้มีดสเตนเลสสตีลต้องหมั่นลับคมบ่อย ๆ ด้วยหินลับมีดญี่ปุ่น รวมถึงการทาน้ำมันลงบนใบมีดจะช่วยป้องกันสนิมได้อย่างดีอีกด้วย
ทั้งหมดนี้คือเทคนิคอันแสนง่ายดายในการดูแลรักษา “มีดญี่ปุ่น” เล่มโปรดของคุณให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่บ่อย แต่สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านขายมีดแล่ปลา มีดทำครัวญี่ปุ่น รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้งานร่วมกัน สามารถเข้ามาดูรายละเอียดสินค้าของทาง Samurai Kitchenware ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ทำซูชิ มีดเชฟญี่ปุ่นและเครื่องครัวญี่ปุ่นทุกประเภท สินค้าคุณภาพสูง พร้อมราคาน่าประทับใจ คลิกที่ https://www.samuraikitchenware.com/ ได้เลย