เขียง ถือเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวที่ทุกบ้านจะต้องมีเอาไว้ ประโยชน์ของเขียงหลักๆ ก็คือเอาไว้เป็นที่รองรับวัตถุดิบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสัตว์ หรือผักเวลาหั่น ในปัจจุบันมีเขียงให้เลือกหลายรูปแบบ แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดก็จะเป็นเขียงพลาสติก กับ เขียงไม้ วันนี้เราจะพาไปดูกันว่าเขียงทั้ง 2 แบบ ต่างกันอย่างไร แล้วมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง
เขียงพลาสติก
เขียงพลาสติก เป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ในครัวเพื่อรองรับการหั่นวัตถุดิบต่างๆ เขียงพลาสติกจะผลิดมากจากพลาสติกคุณภาพสูง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะใช้พลาสติกชนิด PE (Polyethylene) และ PP (Polypropylene) ในการผลิต เพราะมีคุณสมบัติทนต่อความเป็นกรด และด่างอ่อนได้ดี แต่ในปัจจุบันการผลิตเขียงพลาสติก ได้มีการคิดค้นและพัฒนา นำเม็ดพลาสติกคุณภาพดีชนิดอื่นๆ มาใช้ในการผลิต ทำให้เขียงพลาสติกในตลาดปัจจุบัน มีคุณภาพสูง และมีคุณสมบัติในการใช้งานที่ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น
ข้อดีของเขียงพลาสติก
ข้อเสียของเขียงพลาสติก
วิธีเลือกเขียงพลาสติก : เลือกเขียงพลาสติกที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี มีมาตรฐาน มีขนาดและน้ำหนักที่เหมาะสมกับการใช้งาน พื้นผิวมีความเรียบ ทำความสะอาดได้ง่าย
เขียงไม้
เขียงไม้ ถือเป็นเขียงที่ถูกใช้งานมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในครัวไทย และครัวจีน เพราะมีความคงทนต่อการสับ หรือการหั่นที่ใช้แรงมากๆ เขียงไม้สามารถผลิตได้จากไม้หลากหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เช่น ไม้มะขาม จะมีความแข็งแรง เหนียว ทนทาน และไม่สร้างกลิ่นเหม็นให้กับอาหาร ส่วนไม้ยางพาราจะเป็นไม้ที่มีเนื้อแน่น เนื้อละเอียด และมีรูพรุนน้อยกว่าไม้ชนิดอื่น จากนั้นนำมาผ่านการอบแห้งด้วยความร้อนสูง เพื่อฆ่าเชื้อโรค ป้องกันเชื้อรา และเพื่อเพิ่มความทนทานให้กับเขียง
ข้อดีของเขียงไม้
ข้อเสียของเขียงไม้
วิธีเลือกเขียงไม้ : เลือกเขียงที่ผลิตจากไม้คุณภาพดี มีความแข็งแรง มีรูพรุนน้อย มีขนาดและรูปร่างที่เหมาะสมกับการใช้งาน
หากถามว่าจะเลือกใช้เขียงแบบไหนดี อันนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้ใช้เสียส่วนใหญ่ เพราะทั้งคู่ก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าหากจะให้แนะนำคงจะแอนเอียงไปทางเขียงพลาสติกอยู่นิดหน่อย เพราะมีน้ำหนักเบา สามารถทำความสะอาดได้ง่าย สะดวกสบายต่อการใช้งานมากกว่า